กาฬสินธุ์ (ชมคลิป) พัฒนาศักยภาพ อสม. เตรียมพร้อมเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

 


“วิรัช พิมพะนิตย์”ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะเดินสายอบรมพัฒนาศักยภาพ อสม.พร้อมมอบเสื้อกั๊ก ชุดอุปกรณ์ตรวจและป้องกันโควิด-19 เพื่อเสริมกำลังใจและเตรียมความพร้อมขานรับ ประกาศ “ยกเลิก Test and Go” เปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พฤษภาคม พร้อมกับการก้าวสู่โรคประจำถิ่น 1 กรกฎาคม 2565

ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านต้อน ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพ อสม.พร้อมมอบเสื้อกั๊ก ชุดอุปกรณ์ตรวจโควิด-19 โดยมีนายกรีฒิการย์ พิมพะนิตย์ เลขานุการนายก อบจ.กาฬสินธุ์ นายวัญญวัช จุลบุรมย์ นายกเทศมนตรีตำบลเหนือ นางสุคนธรักษ์ คนใจบุญ ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านต้อน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ร่วมงาน
จากนั้นนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายกรีฒิการย์ พิมพะนิตย์ เลขานุการนายกอบจ.กาฬสินธุ์ และคณะ เดินทางไปมอบเครื่องช่วยหายใจ เสื้อกั๊ก ชุดอุปกรณ์ตรวจโควิด-19 ที่ รพ.สต.บ้านฝายแตก, มอบเสื้อกั๊ก ชุดอุปกรณ์ตรวจโควิด-19 ที่ รพ.สต.บ้านโนนแพง และ รพ.สต.บ้านดงเมือง ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมี ด.ต.สมคิด นันทสมบูรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำพาน พร้อมด้วย ผู้อำนวยการ รพ.สต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ร่วมรับมอบ โดยการร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพ อสม.และรับมอบสิ่งของดังกล่าว ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 3 เข็ม และสวมหน้ากากอนามัย 100%


นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.) จะประกาศ “ยกเลิก Test and Go” ซึ่งเป็นการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พฤษภาคมนี้ และพร้อมกับการก้าวสู่โรคประจำถิ่น 1 กรกฎาคม 2565 โดย ศบค.พิจารณาจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศลดน้อยลง ขณะที่จำนวนประชากรภายในประเทศได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครอบคลุมมากขึ้น จึงมีการผ่อนคลายมาตรการ ให้มีการตรวจหาเชื้อกับผู้เดินทางทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ ด้วยวิธี RT-PCR เพียงครั้งเดียว ไม่ต้องกักตัว 5-7 วันเหมือนเมื่อก่อน ทั้งนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจก้าวเดินไปได้
นายวิรัช กล่าวอีกว่า ในเมื่อจะมีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พฤษภาคมนี้ และพร้อมกับการก้าวสู่โรคประจำถิ่น 1 กรกฎาคม 2565 ดังกล่าว อสม.ซึ่งเป็นบุคลากรด่านหน้า ก็ยังจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตรวจคัดกรองในชุมชนอย่างเคร่งครัดต่อไป ทั้งในส่วนเก็บข้อมูลบุคคลเข้าออกพื้นที่ พร้อมเฝ้าระวัง ตรวจรักษาสุขภาพอนามัยเบื้องต้น ให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยความเสียเสียสละ อดทน จึงได้มีการมอบเสื้อกั๊ก พร้อมชุดอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ในครั้งนี้ เพื่อเสริมกำลังใจและเตรียมความพร้อมให้กับพี่น้อง อสม.ทุกคน


อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องประกันชีวิต กรณี อสม.ได้รับเชื้อโควิด-19 ในเฟส 2 นั้น ทางรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะหามาตรการรองรับ เพื่อให้ความช่วยเหลือแน่นอน เพราะมีนโยบายพูดแล้วทำ ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลังอยู่แล้ว